Shared
หลังจากงาน Motor Expo ครั้งที่ 35 ได้เปิดตัวขึ้น วันนี้เราลองมาดูว่าทาง BMW มีอะไรมาอวดโฉมให้เราได้ชมกันบ้าง ลองมาดูกันเลยครับ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยกทัพนวัตกรรมยานยนต์สุดพรีเมียมและเทคโนโลยีล้ำยุค นำโดย บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 8 ใหม่ มุ่งสู่เวทีมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35
ไฮไลท์จากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิบีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู M2 Competition ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine และ M Sport รุ่นประกอบในประเทศ
มินิ แฮทช์ 3 ประตู และ 5 ประตู Oxford Edition
รถยนต์ต้นแบบ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ จีพี
สัมผัสรถบีเอ็มดับเบิลยูเสมือนจริงผ่าน HTC Vive VR Headset
เครื่องแบบใหม่ของผู้ให้คำปรึกษาทางด้านการขายบีเอ็มดับเบิลยู รังสรรค์โดย POEM
กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมยกทัพนวัตกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียม ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มุ่งหน้าสู่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2561 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี นำขบวนโดยบีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ สมาชิกใหม่ในเซกเมนต์สปอร์ตลักชัวรี่ ที่ผสมผสานลุคสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวเข้ากับความเรียบหรูได้อย่างลงตัว บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่ ที่มาพร้อมดีไซน์ปราดเปรียวและการขับขี่ที่เหนือระดับ บีเอ็มดับเบิลยู M2 Competition ใหม่ เครื่องยนต์ทรงพลัง ดุดันเต็มพิกัดในขนาดกะทัดรัด บีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ แต่ยังคงเอกลักษณ์การเป็นรถยนต์เปิดประทุนสมรรถนะสูง และปิดท้ายด้วย บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine และ M Sport รุ่นประกอบในประเทศ ที่ตอกย้ำถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จของโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้มินิ ยังเตรียมต้อนรับแฟนๆ ด้วยรถยนต์มินิ แฮทช์ Oxford Edition 3 ประตู และ 5 ประตู ใหม่และพร้อมเผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ จีพี เจ้าสนามแข่ง ที่จะมาปรากฏตัวให้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มร.คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราที่มีต่อโลกของการขับขี่และการเดินทางในอนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า "ขับสนุก! ก่อนยุคไร้คนขับ” ถึงแม้ว่าเราจะยังคงค้นหาและสำรวจความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในด้านเทคโนโลยีการขับขี่แบบอัตโนมัติ ผ่านทางรถต้นแบบล้ำยุคอย่าง BMW Vision iNEXT และกลยุทธ์ ACES (Autonomous, Connected, Electrified, Shared) แต่ในขณะเดียวกัน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ก็ยังคงมุ่งมั่นมอบความสุขให้กับทุกคนที่รักการขับขี่ด้วยตนเองเช่นกัน และทัพยนตรกรรมที่เราจะนำเสนอภายในงาน ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยรถยนต์รุ่นใหม่จากทั้งตระกูล M และ X ไปจนถึงมินิ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นนี้ได้อย่างดี”
ท่องไปในโลกเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยจากบีเอ็มดับเบิลยู อีกหนึ่งนวัตกรรมสุดล้ำสมัยที่บูธบีเอ็มดับเบิลยูในปีนี้คืออุปกรณ์ HTC Vive VR Headset ซึ่งจะมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่สมจริงให้ลูกค้า ถือเป็นก้าวแรกในการใช้เทคโนโลยี VR นำเสนอรถยนต์ให้ลูกค้าได้สัมผัสในทุกรายละเอียด ช่วยในการเลือกรถยนต์และช่วยตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการลองเลือกชุดแต่ง และสีได้ตามใจชอบ รวมไปถึงได้สัมผัสรายละเอียดเบาะที่นั่ง และความแวววาวของตัวรถจากแสงตกกระทบยามค่ำคืน อุปกรณ์เฮดเซ็ตนี้ประกอบไปด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงสองจอ พร้อมด้วยระบบติดตามตำแหน่งของผู้สวมใส่ด้วยเลเซอร์ ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 5x5 เมตรในแอปพลิเคชันโลกเสมือนจริงของบีเอ็มดับเบิลยู สำหรับภาพกราฟฟิกภายในแอป พัฒนาขึ้นจากซอฟต์แวร์ Unreal Engine 4 โดยบริษัท เอพิค เกมส์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ที่มีภาพสวยงามที่สุดในตลาด จึงทำให้ลูกค้าเห็นภาพรถยนต์ที่สมจริงในทุกองศา ตอบสนองต่อทุกการเคลื่อนไหวของผู้สวมเฮดเซ็ตได้อย่างรวดเร็วด้วยการแสดงผลที่ความเร็ว 90 เฟรมต่อวินาที ทั้งนี้ อุปกรณ์ VR ชุดนี้ทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงที่ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุดอันทรงพลัง พร้อมด้วยระบบทำความเย็นด้วยน้ำ เพื่อสรรสร้างภาพกราฟฟิกที่สวยสมจริงเหนือจินตนาการ
เนี้ยบ เรียบ หรู: เผยลุคยูนิฟอร์มใหม่สำหรับที่ปรึกษาทางด้านการขายของบีเอ็มดับเบิลยูและเพื่อตอกย้ำถึงความพรีเมียมและความหรูหราของบีเอ็มดับเบิลยู เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษาทางด้านการขายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศจะเริ่มให้บริการแก่ลูกค้าในชุดยูนิฟอร์มโฉมใหม่ รังสรรค์โดย ‘โพเอม’ (POEM) ห้องเสื้อชั้นนำของไทย ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบตัดเย็บในรูปทรงนาฬิกาทรายและการเลือกใช้ผ้าที่สอดรับกับทรวดทรงของชาวเอเชียได้อย่างไร้ที่ติ โดยชุดยูนิฟอร์มแบบใหม่นี้ จะออกมาในสไตล์สง่างามเรียบหรู ผสมผสานเฉดสีน้ำเงินเข้มและสีขาวเข้าไว้ด้วยกันเพื่อถ่ายทอดลักษณะอันโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยดีไซน์ที่เน้นความสง่างามแบบล้ำสมัยเหนือกาลเวลาสำหรับทั้งที่ปรึกษาชายและหญิง“เราเชื่อว่าการสร้างความประทับใจเมื่อแรกพบเป็นองค์ประกอบสำคัญในการชนะใจลูกค้า และความประทับใจที่ว่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ที่ตัวรถยนต์เท่านั้น เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษาด้านการขายมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดยพวกเขาไม่เพียงต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังต้องมีความเป็นมืออาชีพ พร้อมด้วยบุคลิกที่สง่างาม สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู เราได้มีโอกาสในร่วมงานกับคุณชวนล ไคสิริ ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์ของโพเอม มาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งความสามารถและพรสรรค์ของคุณชวนลนั้น เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบในการตอบโจทย์นี้ของเรา”
ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่
ราคาจำหน่าย: 12,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)พบกับนิยามใหม่ของรถสปอร์ตคูเป้กับ บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ยนตรกรรมที่ผสานขุมพลังความสปอร์ตปราดเปรียวเหนือระดับและความหรูหราล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ การเปิดตัวสมาชิกรุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 8 ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวใหม่แห่งความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยูในเซกเมนต์รถสปอร์ต และยังถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของบีเอ็มดับเบิลยูในตลาดยานยนต์ระดับพรีเมียม
บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ พร้อมอวดโฉมสุดโฉบเฉี่ยวด้วยแนวทางการดีไซน์รูปแบบใหม่อันทรงพลัง กับรูปทรงที่ลาดต่ำ เน้นย้ำถึงความแกร่งด้วยเส้นสายและโค้งเว้าอันสง่างาม ทั้งที่บริเวณกระโปรงหน้าและตลอดแนวตัวถัง เอกลักษณ์กระจังหน้าทรงไตคู่ของบีเอ็มดับเบิลยูมาในขนาดใหญ่ขึ้น ช่วงล่างของกระจังหน้ากว้างออกเพื่อเน้นย้ำถึงจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของตัวรถ ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ทั้งสองข้างช่วยเสริมสมรรถนะด้านแอโรไดนามิกส์ของตัวรถ คู่ไปกับสปอยเลอร์หน้าที่ทำหน้าที่ลดแรงยกบริเวณเพลาหน้า นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ยังมาพร้อมไฟหน้า LED ที่ติดตั้งระบบ BMW Laserlight ในรูปทรงที่เล็กเรียวกว่าไฟหน้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นอื่นๆ โดยไฟหลักทั้งสองดวงนำมาใช้งานได้ทั้งสำหรับไฟขับขี่ในเวลากลางวัน (daytime driving lights) และการควบคุมไฟสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติด้วย High-beam assistant ให้ด้านหน้าของตัวรถมีรูปลักษณ์ที่คุ้นตาในสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูในทุกช่วงเวลาของการขับขี่
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ BMW TwinPower Turbo V8 รุ่นพัฒนาใหม่ล่าสุด และความเร้าใจจากสมรรถนะที่เหนือระดับยิ่งขึ้นจากชุดแต่ง M Performance ล้วนกระตุ้นการสูบฉีดของอะดรีนาลีน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe โลดแล่นด้วยขุมพลังเบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,600 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.7 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โครงสร้างตัวถัง เทคโนโลยีการขับขี่ และระบบช่วงล่าง ได้รับการออกแบบมาเพื่อสมรรถนะการขับเคลื่อนชั้นเลิศ ที่พบได้เพียงจากรถสปอร์ตระดับแถวหน้าอย่างบีเอ็มดับเบิลยู M8 และบีเอ็มดับเบิลยู M8 GTE ที่เป็นรถแข่ง Endurance เท่านั้น สปอร์ตคูเป้รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมการกระจายน้ำหนักอย่างสมมาตร พร้อมโครงสร้างตัวถังและระบบขับเคลื่อนทำจากวัสดุอะลูมิเนียม แมกนีเซียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีคุณสมบัติความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบาพิเศษ
บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ยังมาพร้อมระบบ Driving Experience Control เพิ่มความสนุกสนานให้แก่การขับขี่ด้วยโหมด ADAPTIVE พร้อมรองรับการตั้งค่าขับขี่ในโหมด COMFORT และ ECO Pro หรือโหมด SPORT และ SPORT+ ให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว หรือโลดแล่นในระยะไกลได้อย่างราบรื่นและด้วยชุดแต่ง M Performance บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยจิตวิญญาณของมอเตอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional สปอยเลอร์หลังแบบ M ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาลาย Y-spoke ขนาด 20 นิ้ว พวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชั่น M พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ เสริมลุคสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งภายนอกสีดำเงา ภายในตกแต่งด้วยสแตนเลสสตีล และผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ รวมถึงไฟบริเวณขอบประตูที่ส่องสว่างด้วยเอกลักษณ์ชื่อรุ่นภายในของบีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe สง่างามด้วยการดีไซน์และคัดเลือกวัสดุคุณภาพพรีเมียมที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อความพึงพอใจของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การออกแบบแผงหน้าปัดตอกย้ำถึงการมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ ขณะที่ผลึกแก้วที่ตกแต่งบริเวณคันเกียร์พร้อมสัญลักษณ์เลข 8 ปุ่ม iDrive ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และปุ่มควบคุมเสียง ล้วนเสริมบรรยากาศความหรูหราอย่างลงตัว
นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมเบาะหน้า-หลังแบบใหม่ในสไตล์สปอร์ต หุ้มด้วยหนังแท้ Merino พร้อมด้วยตำแหน่งของที่นั่งที่มีระดับต่ำลง จึงสามารถมอบความสะดวกสบายได้โดยปราศจากที่รองศีรษะ
บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe นี้ ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสู่ยุคแห่งยานยนต์ไร้คนขับ ด้วยระบบ Parking Assistant Plus และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติที่สามารถตรวจจับรถและคนเดินถนนด้วยความเร็วต่ำ (Person Warning with City Braking Function) ระบบเตือนเพื่อป้องกันการชนด้านหลัง (Rear-collision prevention) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Blind spot detection) ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (Crossing-traffic warning rear) และระบบเตือนป้ายจราจร (Speed limit info and no-overtaking indicator) ซึ่งรถยนต์สปอร์ตคูเป้รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ยังแสดงผลด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ และหน้าจอ Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว รวมถึง BMW Head-Up Display เวอร์ชั่นล่าสุด ฉายภาพขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 16% ในรูปแบบสามมิติ
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe ใหม่ ยังสามารถเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดจาก BMW ConnectedDrive ระบบ iDrive ใหม่ล่าสุด และ BMW Gesture Control ซึ่งติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่
ยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการบีเอ็มดับเบิลยู ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์ในกลุ่ม Sports Activity Vehicle อีกครั้ง ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู X5 เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานสมรรถนะและความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ยังคงรูปลักษณ์อันเฉพาะตัวของ Sports Activity Vehicle แต่มาในดีไซน์ใหม่ที่เรียบหรูยิ่งขึ้น ด้วยพื้นผิวตัวถังที่ราบเรียบ ตัดกับเส้นสายที่เฉียบคมและดุดัน เพิ่มลุคสง่างามให้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู X5 รุ่นล่าสุดนี้ และนอกจากนี้ ตัวรถยังมีขนาดใหญ่ขึ้น ยาว 4,922 มิลลิเมตร กว้าง 2,004 มิลลิเมตร และสูง 1,745 มิลลิเมตร ให้ความรู้สึกโปร่งสบายแก่ผู้โดยสาร พร้อมปริมาตรในการบรรจุของ 650-1,870 ลิตร
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ปราดเปรียวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics เสริมลุคสปอร์ตด้วยขอบหน้าต่างและราวหลังคาสีดำเงา กระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีผิวอลูมิเนียมแบบด้าน พร้อมให้ความรู้สึกทรงพลังด้วยชุดเบรกและช่วงล่างแบบ M Sport และล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ขับเคลื่อนบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ด้วยกำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งพลังให้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บีเอ็มดับเบิลยู X5 ยังคล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อบีเอ็มดับเบิลยู xDrive เจเนอเรชั่นล่าสุดที่ได้รับการพัฒนากำลังขับเคลื่อนและควบคุมการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการถ่ายแรงขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลระหว่างล้อหลังทั้งสองข้างบนเส้นทางออนโรดและออฟโรด บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ยังมาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive M ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Dynamic Traction Control) ระบบ Driving Experience Control สำหรับเลือกรูปแบaบการขับขี่พร้อมโหมด ECO PRO และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด พร้อมมอบความสปอร์ตคล่องตัวและความสะดวกสบายได้ตลอดเส้นทาง
ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ มอบความรู้สึกหรูหราและมีระดับ ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ดีไซน์ที่ลงตัว และระบบการควบคุมที่ล้ำสมัย แผงหน้าปัดดิจิทัลและจอ Control Display ได้รับการออกแบบทั้งกราฟฟิคและดีไซน์มาให้สอดรับกัน พร้อมด้วยเบาะนั่งหนังแท้ Dakota และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ M Sport ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่โดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ยังมีหลังคากระจกแบบ Panorama ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเก่า 30% นอกจากความสะดวกสบายและความเหนือระดับยิ่งขึ้นแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ยังสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 รองรับปริมาตรการบรรจุของตั้งแต่ 645ลิตรถึง 1,870 ลิตร พร้อมประตูท้ายที่สามารถแยกเปิดสองส่วนเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายสัมภาระ ซึ่งสามารถเปิดปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล้ำสมัย เช่น ระบบ Parking Assistant Plus ที่มาพร้อมกับระบบช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ตัวรถสามารถจดจำทิศทางที่ขับตรงไปข้างหน้าในระยะ 50 เมตรสุดท้าย ด้วยความเร็วไม่เกิน 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ และสามารถถอยออกในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ Parking Assistant Plus มาพร้อมกับกล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera รวมทั้งวิวด้านบน วิวพาโนรามิค และรีโมท 3D วิวที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อเพื่อดูภาพของรถที่จอดทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ ผ่านระบบ BMW ConnectedDrive นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ Driving Experience Control เลือกรูปแบบการขับขี่พร้อม ECO PRO ที่ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ อีกหนึ่งความพิเศษของ Sports Activity Vehicle รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ คือระบบ BMW Live Cockpit Professional ที่โดดเด่นด้วยจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครัน ส่วน BMW Head-Up Display เจเนอเรชั่นล่าสุด ขนาด 7x3.5 นิ้ว สามารถแสดงภาพกราฟฟิคสามมิติได้ ขณะที่ระบบควบคุมผ่าน iDrive, BMW Gesture Control และจอ Control Display ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ก็ยังเป็นทางเลือกเพื่อมอบที่สุดแห่งความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่ นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่ ยังมาพร้อม BMW ConnectedDrive มอบบริการการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดระหว่างยานยนต์และผู้ขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู M2 Competition ใหม่
ราคาจำหน่าย: 6,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)บีเอ็มดับเบิลยู M2 รุ่นในดวงใจของแฟน ๆ ตระกูล M หวนคืนสู่วงการรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอีกครั้งในรุ่นบีเอ็มดับเบิลยู M2 Competition เสริมความแรงต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู M2 Coupé ด้วยขุมพลังเบนซิน 6 สูบ ขนาด 3 ลิตรพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งพลังสูงสุด 302 กิโลวัตต์/410 แรงม้า ที่ 5,230 – 7,000 รอบต่อนาที เพิ่มขึ้นจาก M2 Coupe ถึง 40 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 465 นิวตันเมตร เป็น 550 นิวตันเมตร ที่ 2,350 – 5,230 รอบต่อนาที โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.2 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานเข้าจังหวะกับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ พร้อม Drivelogic และระบบระบายความร้อนที่ได้รับการพัฒนาให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยรักษาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมได้
ถึงแม้รูปโฉมของบีเอ็มดับเบิลยู M2 Competition จะยังคงรักษารูปลักษณ์ในภาพรวมของตระกูล M2 ไว้อย่างครบถ้วน แต่ก็ยังมาพร้อมกับรายละเอียดการดีไซน์ต่าง ๆ ที่ปรับเปลี่ยนไป ทั้งในด้านรูปโฉมและสมรรถนะ นับตั้งแต่สีตัวถังใหม่ล่าสุด Metallic Hockenheim Silver มุมมองด้านหน้าของตัวรถดุดันยิ่งขึ้นด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ และกระจังหน้าทรงไตคู่แบบสองซี่สีดำเงา เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศและการทำงานของเครื่องยนต์ กระโปรงหน้าได้รับการออกแบบเพื่อพัฒนาอากาศพลศาสตร์และเน้นย้ำถึงมิติความกว้างของตัวรถ กระจกข้างแบบก้านคู่ให้ลุคเอ็กซ์คลูซีฟยิ่งขึ้น รับกับล้ออัลลอยสไตล์ M ขนาด 19 นิ้วสีดำลาย Y-spoke เสริมลุคสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยท่อไอเสียแบบคู่ควบคุมวาล์วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดีไซน์ภายในตัวรถของบีเอ็มดับเบิลยู M2 Competition มุ่งเน้นความพรีเมียมและความสะดวกสบายด้วยเบาะที่นั่งสปอร์ตหนังแท้ Dakota แบบใหม่พร้อมที่หนุนหลังปรับไฟฟ้าและที่รองศีรษะในตัว มอบบรรยากาศเร้าใจจากชุดแต่งภายในด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M ระบบความบันเทิงและการสื่อสารล้ำสมัยด้วยจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมระบบ iDrive และการเชื่อมต่อแห่งอนาคตจาก BMW ConnectedDrive รวมถึงแท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน
บีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years
ราคาจำหน่าย: 8,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ขุมพลังจากรถเปิดประทุนตระกูล M ใด้ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกด้วยอิสรภาพแห่งความเร้าใจจากการควบคุมที่แม่นยำและสมรรถนะอันปราดเปรียว และในโอกาสนี้ บีเอ็มดับเบิลยูกลับมาสร้างปรากฎการณ์อีกครั้งด้วยบีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years รุ่นพิเศษที่ผลิตมาในจำนวนจำกัดเพียง 300 คันทั่วโลก และเพียง 2 คันในประเทศไทย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสามทศวรรษแห่งความสำเร็จดังกล่าว
บีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years โลดแล่นด้วยขุมพลังเบนซิน 6 สูบ ส่งพละกำลังสูงสุดที่ 331 กิโลวัตต์ / 450 แรงม้า เสริมสมรรถนะความแรงเร้าใจด้วยชุดแต่ง M Competition ที่มีทั้งโหมดการขับขี่ M Drive ช่วงล่างแบบ adaptive M ที่สามารถตั้งค่าโหมด SPORT เพื่อความมันส์ในการขับขี่ และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) พร้อมโหมด M Dynamic (MDM) นอกจากสมรรถนะระดับรถแข่งแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู M4 รุ่นพิเศษนี้ยังมีตัวถังวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) และรูปทรงสุดเพรียวลมที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณมอเตอร์สปอร์ตที่จุดประกายนำทางไปสู่การสร้างสรรค์บีเอ็มดับเบิลยู M3 Convertible รุ่นแรก ในฐานะต้นตำรับของความแรงแบบเปิดประทุนจากบีเอ็มดับเบิลยู บีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years พร้อมสะกดทุกสายตาในสีเหลือง Mandarin II และสีฟ้าเมทัลลิก Macao Blue ที่ตัดกับขอบหน้าต่างแบบ BMW Individual High-Gloss Shadow Line กระจังหน้าทรงไตคู่ ช่องระบายอากาศด้านข้างสไตล์ M และสัญลักษณ์ชื่อรุ่น ทั้งยังพิเศษยิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ M ขนาด 20 นิ้วลาย Star-spoke ในสี Orbit Grey ที่ได้รับการดีไซน์มาอย่างเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสำหรับรุ่นพิเศษนี้ ภายในของบีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years ทั้งเบาะนั่ง ที่วางแขน และแผงประตูบุด้วยหนังแท้ Merino พร้อมดีไซน์ภายในพิเศษในสีดำตัดฟ้า Black/Fjord Blue เข้ากันอย่างลงตัวกับสีตัวถังสีฟ้าเมทัลลิก Macao Blue และเส้นตะเข็บสีเหลืองบนพื้นและเบาะหนังแท้ Merino สีดำสำหรับตัวรถในสีเหลือง Mandarin II ขณะที่ตะเข็บบริเวณเบาะรองศีรษะและพรมปูพื้นรถในดีไซน์ M ก็มาพร้อมกับโทนสีที่ตัดกับพื้นผิวอื่นๆ เพื่อสร้างสีสันอย่างลงตัว พร้อมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ภายในห้องโดยสารที่มาเป็นมาตรฐานในทุกสี
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู M4 Convertible Edition 30 Years ยังตอกย้ำความพิเศษของการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีด้วยการจารึกอักษร “30 Jahre Edition” ลงบนขอบประตูและเบาะรองศีรษะ ขณะที่แผงคอนโซลหน้ารถในฝั่งที่นั่งผู้โดยสารก็มีการสลักอักษรดังกล่าว พร้อมด้วยตัวเลข “1/300” เพื่อเน้นย้ำถึงความเอ็กซ์คลูซีฟของรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น